เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 97. นิยยานิกทุกะ 7. ปัญหาวาร
อารัมมณปัจจัย
[314] สภาวธรรมที่เป็นเหตุนําออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ไม่เป็นเหตุนําออกจากวัฏฏทุกข์โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรค
แล้วพิจารณามรรค รู้จิตของบุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์
ด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุนําออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น
เหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถแล้ว พิจารณากุศลนั้น ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินกุศลนั้น ราคะ ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลพิจารณากุศลที่เคยสั่ง
สมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ พระอริยะพิจารณาผล พิจารณานิพพาน
นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน ผล และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย
พระอริยะพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น
ฯลฯ บุคคลเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ และขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียง
ด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่เป็นเหตุนำออกจาก
วัฏฏทุกข์ด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ
อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ฯลฯ รูปายตนะเป็น
ปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ
ขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดย
อารัมมณปัจจัย
สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
เหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดย
อารัมมณปัจจัย (2)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :613 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 97. นิยยานิกทุกะ 7. ปัญหาวาร
อธิปติปัจจัย
[315] สภาวธรรมที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ
ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
อธิปติปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็น
เหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ โดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ
และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) อธิบดีธรรมที่เป็นเหตุนำ
ออกจากวัฏฏทุกข์ เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติ-
ปัจจัย (3)
[316] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์โดยอธิปติปัจจัย มี 2 อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ
และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลิน เพราะทำความ
ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ ฯลฯ ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
บุคคลพิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌาน ฯลฯ พระอริยะ
พิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน และผลโดยอธิปติปัจจัย บุคคล
ยินดีเพลิดเพลินจักษุ ฯลฯ หทัยวัตถุ และขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้นนั้นให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :614 }